หลังจากเปิดตัวไปเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ทาง Meta ก็ได้เผยข้อมูลล่าสุดของแว่นเสมือนจริงรุ่นใหม่ให้ผู้ที่สนใจได้รับทราบข้อมูลกันแล้ว

แว่นตัวต้นแบบรุ่นล่าสุดของเมตา ทางบริษัทได้ทำการเปิดเผยข้อมูลล่าสุดหลังจากที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อกลางปีที่ผ่านมา เพียงแต่แสดงในเรื่องของแนวคิดเท่านั้น แต่ข้อมูลล่าสุดนี้ทางบริษัทได้พยายามรวบรวมเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาอยู่ภายในแว่นและโชว์สภาปัตยกรรมรุ่นใหม่ที่แสดงออกให้เห็นว่ามันสามารถเป็นไปได้ ในยุคที่แว่นเสมือนจริงสามารถแสดงผลได้อย่างสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น โดยมีการเปิดเผยข้อมูลดังต่อไปนี้

เลนส์แบบ Varifocal Electronics

meta-reality-labs-research-vr-headset-prototype-5-768x432

เลนส์ Varifocal Electronics อิเล็กทรอนิกส์จะช่วยให้แว่นเสมือนจริงแสดงความลึกที่ถูกต้องต่อดวงตาแต่ละข้างที่แยกกันและยังช่วยลดความจําเป็นในการใช้แว่นตา สิ่งนี้จะไม่เพียงทําให้การแสดงผลดูสมจริงยิ่งขึ้น แต่ยังสะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วย เนื่องจากได้มีการแก้ไข “ความขัดแย้งระหว่าง vergence-accommodation” ที่มีมาอย่างยาวนานซึ่งเป็นปัญหาของแว่นเสมือนจริงส่วนใหญ่ในปัจจุบัน

Multi-view Eye-tracking

mirror-lake-meta-reality-labs-research-2-768x432

การติดตามดวงตาแบบหลายมุมมองสามารถเพิ่มความแม่นยําของการติดตามดวงตา ซึ่งเป็นรากฐานสําคัญสําหรับคุณสมบัติอื่น ๆ เช่นการแก้ไขความผิดเพี้ยนแบบไดนามิก โดยให้ระบบมีมุมมองต่อสายตาของผู้ใช้มากขึ้น ซึ่งแว่นเสมือนจริงที่มีระบบติดตามดวงตาส่วนใหญ่ในปัจจุบันมีกล้องภายในเลนส์ในมุมที่คมชัดซึ่งเฝ้าดูสายตาของผู้ใช้เพื่อประเมินการเคลื่อนไหว แต่มุมที่คมชัดนั้นทําให้ยากต่อการประมาณการที่แม่นยํา เมตากล่าวว่า Mirror Lake สามารถรวมกล้องติดตามดวงตาเพิ่มเติมไว้ในตัวยึดเกาะกับศีรษะของผู้ใช้งาน ซึ่งกล้องนี้จะได้รับมุมมองที่ดีขึ้นของสายตาของผู้ใช้โดยดูที่แสงสะท้อนจากฟิล์มโฮโลแกรมที่ฝังอยู่บนเลนส์ของแว่นเสมือนจริง

เลนส์โฮโลแกรมแพนเค้ก

mirror-lake-meta-reality-labs-research-3-768x432

เลนส์แพนเค้กโฮโลแกรมเป็นเลนส์ใหม่ที่บางและเบากว่าในขณะที่ช่วยให้ดวงตาของผู้ใช้เข้าใกล้เลนส์มากขึ้น

ระบบ Passthrough ขั้นสูง

facebook-reality-labs-folded-holographic-optics-5-768x475

คุณสมบัติ Passthrough ขั้นสูงจะช่วยให้มุมมองที่คมชัดและสมจริงยิ่งขึ้นผ่านแว่นเสมือนจริง สําหรับความสามารถความเป็นจริงผสม Lanman ไม่ได้ลงรายละเอียดมากนักเกี่ยวกับสิ่งที่เรียกว่า “กล้องส่องผ่านประสาท” ที่เสนอสําหรับ Mirror Lake แต่เห็นได้ชัดว่าสิ่งนี้จะคล้ายกับคุณสมบัติ Passthrough+ เวอร์ชันถัดไปใน Quest 2 ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อการแสดงความลึกที่แม่นยําและ Latency ต่ำ

ระบบ Reverse Passthrough

frl-reverse-passthrough-prototype-5-768x432

เป็นเทคโนโลยีที่จะโชว์สายตาของผู้ใช้ออกไปยังด้านนอกของตัวแว่น เนื่องจากดวงตาเป็นส่วนสําคัญของการสื่อสารคุณลักษณะนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้การสนทนากับคนที่สวมแว่นเสมือนจริงด้วยกัน

แสงเลเซอร์แบ็คไลท์

แสงพื้นหลังเลเซอร์จะช่วยให้ตัวแว่นแสดงช่วงสีที่กว้างขึ้นเพื่อแสดงถึงสิ่งที่ผู้ใช้จะเห็นในชีวิตจริงได้แม่นยํายิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถทําให้จอแสดงผลสว่างขึ้นด้วยช่วงไดนามิกที่กว้างขึ้น

สุดท้ายนี้ ทางหัวหน้านักวิทยาศาสตร์ของ Meta Reality Labs กล่าวว่า Mirror Lake สามารถแสดงให้เห็นได้ว่า “ระบบจอแสดงผล [VR] เจเนอเรชันถัดไปที่สมบูรณ์จะมีลักษณะอย่างไร” แต่ยังเตือนด้วยว่าสถาปัตยกรรมนี้จะยังไม่ได้รับการพิสูจน์อย่างแน่ชัด จนกว่าจะมีการสร้างแว่นเสมือนจริงออกมาจริงๆ ซึ่งเรานั้นก็คงต้องรอกันต่อไปว่าจะมีวันนั้นหรือไม่ เพราะโครงการนี้ยังไม่ได้รับการอนุมัติที่จะพัฒนาเพื่อผลิตออกมาเป็นแว่นจริงๆ