อะไรก็เป็นไปได้ถ้าอยู่ในมือของ Mark Zuckerberg เมื่อเจ้าตัวจะดันในวงการ AR/VR เติบโตไปให้มากกว่านี้หลายเท่า แถมยังมี Meta เป็นเครื่องมือชั้นดีอีกด้วย

ไม่ว่าจะวงการไหนก็ต้องมีการเติบโต รวมไปถึงวงการ AR/VR ที่ในปัจจุบันนี้ก็โตขึ้นมามากแล้วเมื่อเปรียบเทียบจาก 4 – 5 ปีที่ผ่านมา แต่ว่ายังสามารถเติบโตไปได้มากกว่านี้ เมื่อล่าสุดมีการประชุมบริษัทของทาง Meta ซึ่ง CEO อย่าง Mark Zuckerberg ได้ปักธงเอาไว้ว่าในปี 2030 หรืออีก 8 ปีข้างหน้าจะทำให้วงการ AR/VR นั้นเติบโตให้เทียบเท่ากับวงการโฆษณาในยุคปัจจุบันนี้ให้ได้

meta-logo

ปัจจุบันการโฆษณาที่ตรงเป้าหมายคิดเป็น 98% ของรายได้ทั้งหมดของเมต้า ซึ่งทํารายได้มากกว่า 100 พันล้านดอลลาร์ต่อปี ข้อมูลจํานวนมหาศาลที่บริษัทเก็บไว้เกี่ยวกับผู้ใช้แต่ละรายจะถูกป้อนเข้าสู่ระบบอัลกอริทึมแมชชีนเลิร์นนิงที่ได้รับมอบหมายให้แสดงโฆษณาที่มีแนวโน้มว่าจะถูกคลิ๊กมากที่สุด แต่รูปแบบรายได้นี้ขึ้นอยู่กับการรักษาความสนใจของผู้ใช้งานและในปัจจุบันนี้ก็มีคู่แข่งที่มาแรงอย่าง TikTok เข้ามาแย่งส่วนแบ่งการตลาดไปพอสมควร แถมท่ามกลางเศรษฐกิจที่ซบเซาบวกกับสถานการณ์โลกในปัจจุบันนี้ก็ทำให้รายได้ลดลงไปอยู่เหมือนกัน

facebook-oculus-rift-sales-expecations

นับตั้งแต่เข้าซื้อกิจการ Oculus ในปี 2014 ซึ่งมีรายงานว่ามีมูลค่ามากกว่า 3 พันล้านดอลลาร์ Mark Zuckerberg ได้เริ่มเตรียมการอย่างช้าๆ เพื่อกระจายธุรกิจของ Facebook โดยการสร้างแพลตฟอร์มคอมพิวเตอร์รุ่นถัดไป พร้อมกับการลงทุนหลายหมื่นล้านดอลลาร์เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ จึงได้มีการรีแบรนด์เป็นเมต้าไปเมื่อปีที่แล้ว นอกจากนั้นเจ้าตัวยังได้เพิ่มเป้าหมายระยะยาวนี้เป็นสองเท่าและส่งสัญญาณว่าเขาพร้อมที่จะเดิมพันอนาคตของบริษัทของเขากับวงการนี้ ด้วยความมั่นใจกับสิ่งที่ตัวเองมี ซึ่งก็เชื่อว่าในอนาคตข้างหน้าจะต้องเติบโตไปตามที่เขานั้นคิดไว้อย่างแน่นอน

facebook-realifacebook-reality-labs-headty-labs-head

แผนก AR/VR ของเมต้าในปัจจุบันมีรายได้เพียง 2 พันล้านดอลลาร์ในปี 2021 แต่ไตรมาสที่ 1 และไตรมาสที่ 2 ของปี 2022 มีการเติบโตเมื่อเทียบเป็นรายปีที่ 35% และ 48% ตามลําดับ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่สูงส่งของ Zuckerberg การเติบโตนี้จะต้องเร่งตัวขึ้น แต่ในระยะสั้น CFO David Wehner บอกกับนักลงทุนว่าเขาคาดว่ารายได้ Q3 Reality Labs จะต่ํากว่าไตรมาสที่ 2 หลังจากการประกาศราคาของ Quest 2 ที่เพิ่มขึ้น 100 ดอลลาร์ แต่ในระยะยาวนั้นรายได้จะกลับมาเติบโตมากกว่าเดิม ซึ่งเราจะต้องดูกันไปยาวๆ ว่าทางบริษัทมีแผนการทำงานกันอย่างไรบ้าง แต่เชื่อว่าทางบริษัทนั้นมีการเตรียมทุกอย่างเอาไว้เรียบร้อย รอเพียงแค่เวลาในการเติบโตในอนาคต แล้วค่อยมาดูกันว่าเมื่อถึงวันนั้นจะเติบโตไปได้ขนาดไหน