สำหรับชาว PS5 ที่อยากได้ PSVR รุ่นใหม่แต่ก็ยังเก็บรุ่นเก่าไว้ใช้งานอยู่ในเวลานี้ เราไปดูสเปคและข้อมูลที่ออกมาว่าเหมือนหรือแตกต่างยังไงบ้าง
เปิดตัวกันไปแล้วสำหรับ PSVR รุ่นที่ 2 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ก็ยังไม่มีการเปิดเผยรูปร่างหน้าตารวมไปถึงราคาของแว่นออกมาให้ชมกันแต่อย่างใด ซึ่งแว่นตระกูลนี่ก็มีอายุครบ 5 ปีไปหมาดๆ ซึ่งหลายคนก็น่าจะได้เป็นเจ้าของแว่นรุ่นแรกพร้อมกับ PS4 ที่ออกมาในยุคโน้น แต่หลายคนก็อยากจะทราบว่าผ่านมา 5 ปีแล้วพวกเขาพัฒนากันไปขนาดไหน เลยลองเอาสเปคข้อมูลรวมๆมาเปรียบเทียบกันจะได้เห็นภาพกันอย่างชัดเจนนะครับ

ก่อนอื่นเราจะต้องนำสเปคของแว่นทั้ง 2 รุ่นมาดูกันก่อนนะครับว่าเป็นอย่างไร แล้วจึงค่อยมาจำแนกกันทีละหัวข้อให้เข้าใจตรงกัน ซึ่งข้อมูลของสเปคนั้นก็จะยึดตามที่มีการเปิดตัวออกมาเป็นหลักนะครับ
สเปคของ PSVR ทั้ง 2 รุ่น
ความละเอียด | 2,000 × 2,040 (4.1MP) per-eye, OLED, HDR | 960 × 1,080 (1.0MP) per-eye, RGB OLED |
ค่า Refresh Rate | 90Hz, 120Hz | 90Hz, 120Hz |
เลนส์ | ยังไม่ระบุ | Single element non-Fresnel |
ค่า FOV | 110° | 100° |
การปรับ Optical | IPD | Eye-relief |
การเชื่อมต่อ | USB-C (no breakout box) | USB, HDMI (breakout box) |
สายเคเบิ้ล | unknown | 4.4m |
ระบบ Tracking | Inside-out | Outside-in (ใช้กล้องภายนอก) |
กล้อง | 4x IR (external), 2x IR | ไม่มี |
ระบบ Input | PSVR 2 Sense controllers, eye-tracking | DualShock 4, PS Move, PS Aim, ระบบเสียง |
ระบบเสียง | 3.5mm aux output | 3.5mm aux output |
ไมโครโฟน | Yes | Yes |
ระบบ Haptics | Controllers, headset | Controllers |
น้ำหนัก | ยังไม่ระบุ | 600g |
การวางจำหน่าย | ในช่วง Q3/Q4 2022 | 2016 |
การใช้งานร่วมกับ PS5 | PS5 | PS4, PS4 Pro, PS5 |
ความละเอียด, แผงหน้าจอ และ ระบบ HDR
เริ่มต้นด้วยการแสดงผลกันก่อนเลยเลย สำหรับรุ่นใหม่ที่จะมานั้นมีการอัปเกรดเรื่องความละเอียดของภาพไว้สูงมาก แต่ยงคงใช้แผงหน้าจอแบบ OLED เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือระบบ HDR ที่จะแสดงผลสีให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ซึ่งการที่ความละเอียดเยอะมากขึ้นก็ยิ่งทำให้ภาพที่แสดงผลออกมาต้องมีรายละเอียดี่มากขึ้นตามไปด้วย แถมยงมีการเพิ่มมุมมองให้กว้างมากยิ่งขึ้น พร้อมกับการใช้เลนส์แบบใหม่
เลนส์และการปรับ IPD
ในส่วนของเลนส์แม้จะยังไม่มีการเปิดเผยออกมา แต่เชื่อว่าน่าจะมีการเปลี่ยนแปลงจากรุ่นเดิม เพื่อให้สามารถมองเห็นภาพได้อย่างชััดเจนมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงการปรับระยะการมองเห็น จากเดิมที่แทบจะแตะต้องอะไรไม่ได้เลย คราวนี้ทาง Sony ได้มีการแก้ไขโดยใช้การปรับ IPD แบบอัตโนมัติ ซึ่งน่าจะมีการกำหนดค่าเอาไว้เรียบร้อยก่อนที่จะวางจำหน่าย
การใช้งานและระบบ Tracking
ในรุ่นแรกนั้นเวลาที่จะใช้งาน จำเป็นต้องต่อผ่านกล่องรับสัญญาณเพิ่มอีก 1 จุดก่อนที่จะใช้งานได้ แถมยังใช้พอร์ต HDMI เหมือนเดิม แต่ในรุ่นใหม่ที่มีการแจ้งมานัั้นจะเป็นการเชื่อมต่อผ่านช่อง USB-C ที่ให้ความเร็วในการรับ-ส่งข้อมูลอย่างสูง ดังน้นเราแทบจะเห็นภาพแบบ Real-Time ซึ่งคิดว่าน่าจะมีการตอบสนองกับการเล่นของเราได้แบบทันทีทันใด
การควบคุมและระบบ Haptics
การควบคุมในครั้งนี้ก็เปลี่ยนจาก PS Move มาเป็น Controller แบบใหม่ที่ใช้ระบบ Haptics Feedback ทำให้การเล่นเกมของเรามีความรู้สึกมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการกระทำใดๆ ภายในเกมนี้ก็จะมีความรู้สึกตอบสนองมากยิ่งขึ้น แถมยังใส่มาทั้งในตัวควบคุมและตัวแว่นอีกด้วย แต่ในรุ่นแรกนั้นไม่มีแบบนี้

คิดว่าน่าจะพอนึกภาพกันออกนะครับว่าตัวแว่นนั้นมีการพัฒนาไปในด้านไหนกันบ้าง แม้จะยังไม่มีการประกาศวางจำหน่ายออกมา แต่ก็น่าจะเป็นที่ตกลงในใจกันแล้วว่าออกมาเมื่อไหร่ก็คงจะสอยกันแน่นอน สำหรับชาว PS5 ทั้งหลาย แต่ขอแค่ว่าเมื่อวันนั้นมาถึงจริงๆ เรื่องสินค้าขาดตลาดน่าจะหมดไปแล้วนะครับ ไม่งั้นนี่ไม่มีเครื่องเล่นแว่นคงจะไม่มีประโยชน์จริงๆแหละครับ